เหรียญแสตมป์ ปี พ.ศ.๒๕๓๐ เนื้อทองแดง บล็อคธรรมดามีห่วงไม่มียันต์No. 0348

นอกเหนือจากดวงตราสุริยันจันทรา รวมทั้งผ้ายันต์ต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาใน พ.ศ.๒๕๓๐ แล้ว ทุกคนคงจะรับทราบด้วยว่าในคราวเดียวกัน พล.ต.ท.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล ได้สร้างวัตถุมงคลพร้อมกันอีก ๑ ชนิด นั่นคือ “เหรียญแสตมป์” ที่สร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากับแสตมป์โดยด้านหน้าทำเป็นรูปเศียรจตุคามรามเทพ และพระพุทธสิหิงค์
         เหรียญรูปเศียรหลักเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งทำเป็นรูปพรหม ๘ หน้า ๑๖ ตา เมื่อจำลองลงกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า จึงมีรูปลักษณะคล้ายแสตมป์  จึงนิยมเรียกกันว่า “เหรียญแสตมป์” เป็นเหรียญเนื้อโลหะที่สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ทรงพระสุหร่ายและทรงเจิมยอดชัยหลักเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อวันจันทร์ที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๓๐ ตรงกับวันจันทร์ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๙ ปีเถาะเหรียญแสตมป์เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นเพื่อพลีและจำหน่ายหาทุนสร้างศาลหลักเมืองนครฯในโอกาศที่พระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าทรงพระสุหร่ายทรงเจิมยอดชัยหลักเมืองนครฯ ในวันจันทร์ที่3สิงหาคม2530
ตรงกับเดือน 9ขึ้น 9ค่ำ ปีเถาะ จ.ศ. 1349 ที่จริงแล้ววันนี้เป็นวันสมโภชหลักเมืองจึงนิมนต์พระสงฆ์มาร่วมพิธีสวดเจริญ
มงคลพระคาถาเพื่อเป็นศิริมงคลและ มีการปลุกเศกพระเครื่องหลายรายการ สำหรับเหรียญสแตมป์ที่จริงแล้วสร้างก่อน
วันที่16ก.ค.30 อีกเพราะในเอกสารที่ได้รับมาบอกกล่าวไว้ว่า 16ก.ค.ปี30 เวลาเที่ยง(11.29นาฬิกา) มีการประกอบการปลุก
เศกกลางทะเลมีพระอาทิตย์ทรงกลด ฟ้าดินสำแดงเทพนิมิตให้ประจักษ์และ เมื่อวันที่3สิงหาคม ก็มีการปลุกเศกที่หลักเมือง
นครฯอีกครั้งหนึ่ง โดยฤกษ์นั้นมีดังนี้ วันที่16 กรกฎาคม ปี 2530 ทำพิธีปลุกเสกกลางทะเลโดยออกจากท่าเรือที่ปากพนังไกล
จากฝั่งไปประมาณ20กว่ากิโลเมตร ว่ากันว่าท้องทะเลในวันนั้นลมคลื่นปั่นป่วนมากทั่งลมทั้งพายุ แค่เรื่องนี้ก็เป็นที่กล่าว
ขวัญถึงทุกวันนี้ว่าในบริเวณรอบๆที่ทำพิธีนั้น ไม่ปรากฏว่ามีลมหรือฝนอยู่ในบริเวณดังกล่าวเลย(เชื่อหรือไม๊คร้าบ…ศักดิ์สิทธ์ครับศักดิ์สิทธิ์)
ส่วนวันที่สมโภชและปลุกเสกก็เป็น วันพฤหัส แรม9ค่ำ เดือน8 ปีเถาะ จ.ศ.1349 เป็นโจโรฤกษ์เวลา11.29นาฬิกามีดวงอาทิตย์, พฤหัสและเสาร์เป็นราชาโชค, ดาวพุธเป็นเกษตรส่วนนวางจักร์มีดวงอาทิตย์และดาวราหูเป็นราชาโชค
( ดวงอาทิตย์เป็นวรโคตรรนวางค์ คือ2เด้งไงครับ) วันที่กล่าวมานี้เป็นวันที่ดีมากๆ(เคยกล่าวไว้ในเรื่องอของสีผึ้งศรีวิชัยแล้ว)
ส่วนวันจันทร์ที่3 สิงหาคม ปี2530 ซึ่งเป็นวันสมโภชนั้นมีการแห่ช้างแห่ม้า แห่เรื่อพิธีใหญ่มาก นายกฯเปรมติณณสูยานนท์
มาเป็นประธาน ส่วนทางนครศรีธรรมราชมีท่านขุนพันธ์รักษ์ฯเป็นประธาน คนร่วมงานกันเป็นหลายหมื่นคน ในครั้งนั้นมี
วัตถุมงคลเข้าร่วมพิธีปลุกเสกหลายอย่างแต่ที่กล่าวถึงคือ เหรียญเศียรหลักเมือง(สแตมป์)ปี30จำนวนที่สร้างรวมแล้ว
ประมาณ120,000เหรียญ แบ่งเป็นมีหู3-4หมื่นเหรียญ ราคาเหรียญล่ะ12บาท นอกจากนั้นเป็นเหรียญที่ไม่มีหูทั้งหมด
และเหรียญชุดกรรมการ 6เหรียญ รวมกันในกล่องมีประมาณ 500กล่อง ราคากล่องล่ะ199บาท ส่วนวันสมโภชคือวันที่ 3
สิงหาคม 30 ตรงกับวันขึ้น9ค้ำ เดือน9 เป็นเพชรฆาตฤกษ์ลัคนจราศีตุลย์ในนวางค์จักรมีดาวพุธเป็นเกษตรและมหาอุจน์ ดาว
พฤหัสเป็นอุจจาภิมุขดาวราหูราชาโชคและอุจจาวิลาศ ส่วนในตรียางค์มีอาทิตย์เป็นมหาจักร, ดาวพฤหัสเป็นราชาโชค-ตนุเศษ,
ดาวศุกร์ราชาโชค, ดาวเสาร์เป็นราชาโชค-อุจจาภิมุข ถ้าว่ากันตามฤกษ์ยามแล้วดีมากๆครับคุ้มครองป้องกันทั้งเรือกสวน
ไร่นา คุ้มครองทั้งดวงชะตา เสริมในสิ่งที่ขาดหายไปก็ลงใบแทรกแจกกันในปี30ก็ขอให้ท่านผู้ชมได้อ่านกันเล่นๆๆนะครับ
พระหลักเมืองเนื้อโลหะ
สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมยอดหลัก
เมือง นครศรีธรรมราชอันเป็นวันมหามงคลยิ่งใหญ่ในรอบพันปีคือ วันจันทร์ ที่ 3 สิงหาคม 2530 ตรงกับ เดือน 9 ขึ้น9 ค่ำ ปี
เถาะ
เนื้อโลหะประกอบด้วยส่วนผสมของ ทองคำ เงิน นาค ที่องค์ราชันดำจตุคามรามเทพลงคาถาอาคม ยันต์หัวใจธรณี
หัวใจมนุษย์ ยันต์ศักดิ์สิทธ์ทั้งหลายของชาวศรีวิชัย ส่วนรูปแบบด้านหน้าจำลองส่วนบนของเสาหลักเมืองย่อขนาด ช่างฝีมือปฎิ
มากรรมให้งดงามวิจิตรเป็นเลิศ ด้วยความลำบากยากเย็น เพื่อให้สมกับศิลปกรรมล้ำค่าแห่งยุค ส่วนด้านหลังจำลองตรา
ศักดิ์สิทธิ์ของชาวชวากะ ทำเป็นรูปพญาราหูอมจันทร์รามล้อมตรา 12 นักษัตร 8 ทิศ ตรงกลางบรรจุดวงชะตาวันสำคัญ มี 2
แบบ คือ แบบมีห่วง ไม่มียันต์ และแบบมียันต์แต่ไม่มีห่วง และชนิดพิเศษเนื้อนวโลหะบรรจุกล่อง
พระหลักเมืองเนื้อโลหะทุกชนิด ได้นำออกไปประกอบพิธีปลุกเสกกลางสมุทร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม
2530เวลาเที่ยงพระอาทิตย์ทรงกรดฟ้าดินสำแดงเทพนิมิตให้เป็นที่ประจักษ์แล้ว พลตำรวจตรี ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช ยังได้
ประกอบพิธีปลุกเสกกลางหาว ณ ศาลหลักเมือง โดยพระอาจารย์ทรงวิทยาคมสำนักวัดเขาอ้อ จึงครบถ้วนตามพิธีกรรมชาวศรีวิชัย
พระหลักเมืองเนื้อนวโลหะจึงประกอบด้วยบุญฤทธิ์ สมดังเจตนาอธิษฐานที่มอบให้เป็นสมนาคุณแก่ผู้ที่ช่วยเหลือสร้างหลักเมือง ตามอัตภาพ ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธคุณมนตราอาถรรธ์ขององค์ราชันดำจตุคามรามเทพ จะช่วยคุ้มครองป้องกันอันตรายทั้งปวง แก่ผู้ที่มีไว้ติดตัวช่วยให้ประกอบอาชีพบังเกิดโชคดี ไปมาค้าขายบังเกิดลาภผล ใส่ในนาข้าว นากุ้ง
จักอำนวยช่วยเพิ่มดอกออกผลน่าอัศจรรย์ สร้างขึ้นเพียงครั้งเดียวในโอกาสเดียว ไม่มีอีกแล้วในอนาคต แบบแม่พิมพ์ทั้ง
หมดได้ประกอบพิธีฝังใต้ฐานศาลหลักเมือง ความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารมีหรือไม่อย่างไร ท่านจะประสพพบเห็นด้วยตนเอง
เหรียญแสตมป์ พิมพิ์ไม่มีหู ปี 2530 เหรียญนี้มีการแบ่งย่อยออกเป็น 3 พิมพิ์ คือ
1. พิมพิ์ธรรมดา
2. พิมพิ์ มีตัว จ.
3. พิมพิ์ มีตัวเฮ้ง
-นักขายก็ชั่งสังเกตุหาจุดโก่งราคาขายจนได้ แค่นี้ไม่พอยังมีพิมพิ์ยันต์ทะลุอีก
-พิมพิ์ มีตัว จ. ให้ดูหลังเหรียญบริเวณใต้แขนซ้ายของราหูองค์ตรง 1 นาฬิกากับแขนขวาของราหูองค์ตรง 3 นาฬิกา จะมี
รอยขีดโค้งคล้ายกับตัว จ. หากเป็นบล๊อกตัวเฮงจะเป็นขีดๆ
-ตัวตัดขอบเหรียญของพิมพิ์ธรรมดา กับพิมพิ์มีตัว จ. จะไม่เหมือนกัน
-ระดับการเก๊ของเหรียญพิมพิ์นี้เฉียบมาก ของแท้ให้สังเกตุผิวเหรียญจะออกส้ม ส่วนเก๊จะออกสีแดง

(หากต้องการดูพระทั้งหมดในร้าน กดหน้าแรก ด้านบนเลยนะครับ)